วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

คำบอกหน้าที่ KATA TUGAS

Kata Tugas (คำบอกหน้าที่ )
กลุ่มคำทุกกลุ่มที่ไม่ใช้ คำนาม, คำกริยาและคำคุณลักษณะคำที่ปรากฏในการสร้างวลีเพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างที่บอกหน้าที่ไวยากรณ์
ชนิดคำบอกหน้าที่ ประกอบด้วย 3 ประเภทแรก
1.    คำเชื่อมประโยค
2.    คำส่วนหน้าประโยค
3.    คำถอดความ
คำเชื่อมประโยค
 แบ่งแยกจาก 2 ชนิด
1.    คำเชื่อมต่อประโยค
คำที่เชื่อมต่อ 2 หรือ มากกว่าประโยคที่เหมือนกัน เช่น หรือ, ในขณะที่, และ
ตัวอย่าง
1.     เราจะกลับไปที่หมู่บ้านจากวันนี้หรือพรุ่งนี้
2.     พี่สาวขับขี่รถยนต์ในขณะที่กำลังฟังวิทยุ
Kata Hubang Pancangan ถูกแบ่งเป็น 3 แบบ
คำเชื่อมสัมพันธ์สร้างขึ้นมาจากคำว่า ซึ้ง คือคำที่ทำหน้าที่เพื่อเชื่อมประโยคแรกกับประโยครอง
ตัวอย่าง
1.     พี่สาวชักชวนน้องที่กำลังร้องให้อยู่นั้น
คำเชื่อมการเติมเต็ม
สร้างขึ้นมาจากคำว่า ว่า และ เพื่อ เชื่อมต่อประโยคเสริมหรือเพิ่มเติมจากหนึ่งประโยคต้น
ตัวอย่าง
1. ฉันเชื่อว่าเขาไม่ผิด
2. ไฟรุสมาเพื่อเยี่ยมเพื่อนที่ดีของเขา
คำเชื่อมขยาย
เชื่อมต่อประโยคแรกกับประโยคที่เป็นคำขยาย  หวังว่า, เมื่อ, ในกรณีที่, แม้ว่า, เมื่อ
ตัวอย่าง
1.  ฉันอธิฐานให้นักเรียนของฉันประสบความสำเร็จ
2. เขาได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลสำหรับอุบัติเหตุทางถนน

Kata Praklausa
 คำที่มีอยู่ส่วนหน้าประโยคและทำหน้าที่เพื่อทำให้เกิดคำอุทาน , คำถามหรืออธิบายฐานของประโยค

Kata Seru (คำอุทาน)
-         เกิดขึ้นมาจากความรู้สึกที่หลากหลาย
-         ใช้สัญลักษณ์คำอุทานในช่วงท้ายของประโยค
-         ว้าว! บ้านหลังนั้นสวยจัง! ( ใช่ )
-         ว้าว! บ้านหลังนั้นสวยจัง  ( ไม่ใช่ )
Kata Perintah (คำสั่ง)
คำที่ถูกใช่เพื่อถ่ายทอดหรือบอกทิศทาง ข้อห้าม, คำแนะนำหรือคำขอ
Kata Pangkal Ayat (คำหน้าประโยค)
คำที่ใช่เครื่องหมายความต่อเนื่องประโยคในวาทกรรม/สนทนา ตำแหน่งที่อยู่ส่วนหน้าของประโยค คำนี้พบมากในบทความคลาสสิกและก็จะผ่านไป
ตัวอย่าง
1.     กาลครั้งหนึ่ง
Kata Prafrausa (คำหน้าวลี)
กลุ่มคำที่อยู่ในส่วนหน้าวลี เช่น วลีคำนาม, วลีกริยาและวลีคำคุณศัพท์
แบ่งออกเป็นดังนี้
Kata Bantu (คำช่วยเสริม)
-          คำกริยาที่ช่วยบอกเวลา
-         บรรยากาศแตกต่างกับเวลา เช่น เคย, แล้ว, จะ, กำลัง
ตัวอย่าง
1.      เขากำลังเรียน
Kata bantu ragam (คำกริยาช่วยบอกความรู้สึก)
 แสดงหรืออธิบายความรู้สึกที่เกี่ยวข้องการกระทำที่ดำเนินการ เช่น ควรจะ, ต้องการ, ควร, สามารถ
ตัวอย่าง
1.      รีน่าต้องการย้ายไปที่ KL
Kata Penguat (คำบอกความถี่)
กลุ่มคำที่ใช้สำหรับขยายความหมายที่มีอยู่ในคำคุณศัพท์ คำบอกความถี่ส่วนหน้า-ตำแหน่งของคำนี้จะอยู่หน้าคำคุณศัพท์ เช่น  ที่สุด, มากเกินไป, ค่อนข้าง
ตัวอย่าง
1.     มัยมูนะเป็นเด็กหญิงที่สวยที่สุดในสถาบันนั้น
คำบอกความถี่ด้านหลัง-หลังคำคุณศัพท์ เช่น ครั้งเดียว, ความจริงและจริงๆ
ตัวอย่าง
1.      สวยจริงๆ
2.      คำบอกความถี่อิสระ-มีทั้งหน้าหรือหลังคำคุณศัพท์
3.      จริงๆ, มาก
ตัวอย่าง
1.     Dia sangat gembira เขาดีใจมาก / Dia gembira sungguh เขาดีใจมาก
Kata Penegas (คำที่ทำหน้าที่เน้นยำประโยค)
 นอกจากนี้เรียกว่าเป็นคำอนุภาคคือกกลุ่มคำที่ใช้สำหรับให้ความสำคัญในส่วนที่เฉพาะเจาะจงในประโยค คำที่อ้างถึงวลีคำกริยา, คือ เมื่อไรที่วลีคำกริยาหรือส่วนที่ถูกอ้างอิงนั้นในกระบวนการนำหน้า
ตัวอย่าง
1.      ไฟซ่าสวมใส่เสื้อสีแดง [ ใครที่สวมเสื้อสีแดงนั้น?]
2.     และข้อเรียกว่าเป็นคำอนุภาคคือ กลุ่มคำที่ใช้สำหรับให้ความสำคัญในส่วนเฉพาะในประโยค
3.     คำที่อ้างถึงวลี คำกริยา คือ เมื่อใดวลี คำกริยา หรือส่วนที่ถูกอ้างนั้น
ตัวอย่าง
1.      ไฟซ่าสวมใส่เสื้อสีแดง  [ใครที่สวมเสื้อสีแดงนั้น?]
Kata Nafi (คำปฏิเสธ)
คำที่ใช้สำหรับบอกเลิกหรือปฏิเสธใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง เช่น ไม่ และ ไม่ใช่
ตัวอย่าง
1.     เสื้อนี้ไม่ใช่สำหรับ Suzi แต่เสื้อนี้สำหรับน้องของฉัน
2.     ลำคลองนั้นไม่ลึกมาก
Kata Pemeri
 การเชื่อมกันระหว่างประธานของประโยคกับวลีแรกในคำกริยาประโยค
ตัวอย่าง
1.     เขาคือนักเขียนของประเทศ
2.     หนังสือนั้นเป็นของน้อง
Kata Arah (คำบอกทิศทาง)
บอกถึงทิศทางหรือสาขาบางอย่าง ใช้ก่อนวลีคำนามและที่พบบ่อย/ร่วมกัน มาพร้อมกับคำแทนสรรพนาม
ตัวอย่าง
1.     บอลนั้นอยู่ใต้โต๊ะ
Kata Bilangan (คำจำนวนนับ)
-         ค่าหรือจำนวนของบางสิ่งบางอย่างคนหรือสิ่งของ คำนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5
-         จำนวนนับที่แน่นอน : หนึ่ง, สอง, สาม, สี่
-         จำนวนนับที่ไม่แน่นอน : บาง, ทั้งหมด
-         จำนวนที่รวบรวม : เป็นถัง, เป็นวัน
-         จำนวนที่เป็นส่วน : แต่ละคน, ทุกๆ
-         จำนวนแบ่งแยก : ครึ่ง
Kata Sendi Nama
โดยปกติแล้วจะอยู่ส่วนหน้าของวลีคำนาม

ตัวอย่าง

 ที่, ไปยัง, จาก, ไปยัง, มาจาก, จาก, เพื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น