Kata Tugas (คำบอกหน้าที่
)
กลุ่มคำทุกกลุ่มที่ไม่ใช้ คำนาม,
คำกริยาและคำคุณลักษณะคำที่ปรากฏในการสร้างวลีเพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างที่บอกหน้าที่ไวยากรณ์
ชนิดคำบอกหน้าที่ ประกอบด้วย 3 ประเภทแรก
1. คำเชื่อมประโยค
2. คำส่วนหน้าประโยค
3. คำถอดความ
คำเชื่อมประโยค
แบ่งแยกจาก 2 ชนิด
1.
คำเชื่อมต่อประโยค
คำที่เชื่อมต่อ 2 หรือ มากกว่าประโยคที่เหมือนกัน เช่น หรือ, ในขณะที่,
และ
ตัวอย่าง
1. เราจะกลับไปที่หมู่บ้านจากวันนี้หรือพรุ่งนี้
2. พี่สาวขับขี่รถยนต์ในขณะที่กำลังฟังวิทยุ
Kata Hubang Pancangan ถูกแบ่งเป็น
3 แบบ
คำเชื่อมสัมพันธ์สร้างขึ้นมาจากคำว่า
‘
ซึ้ง ‘ คือคำที่ทำหน้าที่เพื่อเชื่อมประโยคแรกกับประโยครอง
ตัวอย่าง
1. พี่สาวชักชวนน้องที่กำลังร้องให้อยู่นั้น
คำเชื่อมการเติมเต็ม
สร้างขึ้นมาจากคำว่า
‘ว่า ‘ และ ‘เพื่อ ‘เชื่อมต่อประโยคเสริมหรือเพิ่มเติมจากหนึ่งประโยคต้น
ตัวอย่าง
1. ฉันเชื่อว่าเขาไม่ผิด
2. ไฟรุสมาเพื่อเยี่ยมเพื่อนที่ดีของเขา
คำเชื่อมขยาย
เชื่อมต่อประโยคแรกกับประโยคที่เป็นคำขยาย
หวังว่า,
เมื่อ, ในกรณีที่, แม้ว่า,
เมื่อ
ตัวอย่าง
1. ฉันอธิฐานให้นักเรียนของฉันประสบความสำเร็จ
2. เขาได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลสำหรับอุบัติเหตุทางถนน
Kata Praklausa
คำที่มีอยู่ส่วนหน้าประโยคและทำหน้าที่เพื่อทำให้เกิดคำอุทาน
,
คำถามหรืออธิบายฐานของประโยค
Kata Seru (คำอุทาน)
-
เกิดขึ้นมาจากความรู้สึกที่หลากหลาย
-
ใช้สัญลักษณ์คำอุทานในช่วงท้ายของประโยค
-
ว้าว!
บ้านหลังนั้นสวยจัง! ( ใช่ )
-
ว้าว!
บ้านหลังนั้นสวยจัง ( ไม่ใช่ )
Kata Perintah (คำสั่ง)
คำที่ถูกใช่เพื่อถ่ายทอดหรือบอกทิศทาง
ข้อห้าม,
คำแนะนำหรือคำขอ
Kata Pangkal Ayat (คำหน้าประโยค)
คำที่ใช่เครื่องหมายความต่อเนื่องประโยคในวาทกรรม/สนทนา
ตำแหน่งที่อยู่ส่วนหน้าของประโยค คำนี้พบมากในบทความคลาสสิกและก็จะผ่านไป
ตัวอย่าง
1. กาลครั้งหนึ่ง
Kata Prafrausa (คำหน้าวลี)
กลุ่มคำที่อยู่ในส่วนหน้าวลี
เช่น วลีคำนาม, วลีกริยาและวลีคำคุณศัพท์
แบ่งออกเป็นดังนี้
Kata Bantu (คำช่วยเสริม)
-
คำกริยาที่ช่วยบอกเวลา
-
บรรยากาศแตกต่างกับเวลา
เช่น เคย,
แล้ว, จะ, กำลัง
ตัวอย่าง
1. เขากำลังเรียน
Kata bantu ragam (คำกริยาช่วยบอกความรู้สึก)
แสดงหรืออธิบายความรู้สึกที่เกี่ยวข้องการกระทำที่ดำเนินการ
เช่น ควรจะ, ต้องการ, ควร, สามารถ
ตัวอย่าง
1. รีน่าต้องการย้ายไปที่ KL
Kata Penguat (คำบอกความถี่)
กลุ่มคำที่ใช้สำหรับขยายความหมายที่มีอยู่ในคำคุณศัพท์
คำบอกความถี่ส่วนหน้า-ตำแหน่งของคำนี้จะอยู่หน้าคำคุณศัพท์ เช่น ที่สุด, มากเกินไป,
ค่อนข้าง
ตัวอย่าง
1. มัยมูนะเป็นเด็กหญิงที่สวยที่สุดในสถาบันนั้น
คำบอกความถี่ด้านหลัง-หลังคำคุณศัพท์
เช่น ครั้งเดียว, ความจริงและจริงๆ
ตัวอย่าง
1. สวยจริงๆ
2. คำบอกความถี่อิสระ-มีทั้งหน้าหรือหลังคำคุณศัพท์
3. จริงๆ, มาก
ตัวอย่าง
1. Dia
sangat gembira เขาดีใจมาก / Dia gembira sungguh เขาดีใจมาก
Kata Penegas (คำที่ทำหน้าที่เน้นยำประโยค)
นอกจากนี้เรียกว่าเป็นคำอนุภาคคือกกลุ่มคำที่ใช้สำหรับให้ความสำคัญในส่วนที่เฉพาะเจาะจงในประโยค
คำที่อ้างถึงวลีคำกริยา, คือ เมื่อไรที่วลีคำกริยาหรือส่วนที่ถูกอ้างอิงนั้นในกระบวนการนำหน้า
ตัวอย่าง
1. ไฟซ่าสวมใส่เสื้อสีแดง [
ใครที่สวมเสื้อสีแดงนั้น?]
2. และข้อเรียกว่าเป็นคำอนุภาคคือ
กลุ่มคำที่ใช้สำหรับให้ความสำคัญในส่วนเฉพาะในประโยค
3. คำที่อ้างถึงวลี
คำกริยา คือ เมื่อใดวลี คำกริยา หรือส่วนที่ถูกอ้างนั้น
ตัวอย่าง
1. ไฟซ่าสวมใส่เสื้อสีแดง [ใครที่สวมเสื้อสีแดงนั้น?]
Kata Nafi (คำปฏิเสธ)
คำที่ใช้สำหรับบอกเลิกหรือปฏิเสธใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง
เช่น ไม่ และ ไม่ใช่
ตัวอย่าง
1.
เสื้อนี้ไม่ใช่สำหรับ
Suzi
แต่เสื้อนี้สำหรับน้องของฉัน
2. ลำคลองนั้นไม่ลึกมาก
Kata Pemeri
การเชื่อมกันระหว่างประธานของประโยคกับวลีแรกในคำกริยาประโยค
ตัวอย่าง
1.
เขาคือนักเขียนของประเทศ
2. หนังสือนั้นเป็นของน้อง
Kata Arah (คำบอกทิศทาง)
บอกถึงทิศทางหรือสาขาบางอย่าง
ใช้ก่อนวลีคำนามและที่พบบ่อย/ร่วมกัน มาพร้อมกับคำแทนสรรพนาม
ตัวอย่าง
1. บอลนั้นอยู่ใต้โต๊ะ
Kata Bilangan (คำจำนวนนับ)
-
ค่าหรือจำนวนของบางสิ่งบางอย่างคนหรือสิ่งของ
คำนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5
-
จำนวนนับที่แน่นอน :
หนึ่ง,
สอง, สาม, สี่
-
จำนวนนับที่ไม่แน่นอน
: บาง,
ทั้งหมด
-
จำนวนที่รวบรวม :
เป็นถัง,
เป็นวัน
-
จำนวนที่เป็นส่วน :
แต่ละคน,
ทุกๆ
-
จำนวนแบ่งแยก : ครึ่ง
Kata Sendi Nama
โดยปกติแล้วจะอยู่ส่วนหน้าของวลีคำนาม
ตัวอย่าง
ที่, ไปยัง, จาก, ไปยัง, มาจาก, จาก, เพื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น